วันเสาร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2557

Part 8 - Niigata City

Part 8 - Niigata City
          เมืองนิงาตะตั้งอยู่ในจังหวัดซาราโกซา ในสมัยก่อนนั้นเป็นแค่เขตชานเมืองของเมืองคะนะซะวาเท่านั้น แต่ต่อมาได้เมื่อมีการขยายเขตเมืองและมีจำนวนประชากรเพิ่มขึ้นจึงทำให้ในปี 159 ได้ยกระดับฐานะกลา่ยเป็น "เมืองนิงาตะ" ปัจจุบันนิงาตะมีประชากรราวๆ 244,620 คนซึ่งมากเป็นลำดับสองรองจากเมืองกัวลาลัมเปอร์อันเป็นเมืองหลวงของจังหวัดซาราโกซา รวมถึงยังเป็นเมืองที่มีเขตเศรษฐกิจใหญ่เป็นลำดับที่ 3 รองจากเมืองคะนะซะวาและกัวลาลัมเปอร์ นิงาตะมีเขตอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างเมืองนิงาตะกับเขตปกครองพิเศษโอไดบะจึงทำให้นิงาตะเป็นศูนย์กลางภาคอุตสาหกรรมของจังหวัดอีกทั้งยังมีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดภายในจังหวัดอีกด้วย
         
           นิงาตะเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำอะซาโนกะวะโดยทิศเหนือติดกับอวกาศ ทิศตะวันออกติดกับเขตปกครองพิเศษโอไดบะ ทิศใต้ติดกับนครกัวลาลัมเปอร์ และทิศตะวันตกติดกับเมืองคะนะซะวา ด้วยการที่ตั้งอยู่ปากแม่น้ำจึงทำให้ต้องมีการสร้างเขื่อนไว้คอยควบคุมการขึ้น-ลงของน้ำทะเลให้สมดุลย์กับน้ำจืดถ้าไม้งั้นก็คงจะไม่มีน้ำประปาใช้แน่ๆ โดยปลาที่มีรสชาติอร่อยก็อาศัยอยู่บริเวณปากแม่น้ำนี้เหมือนกัน
         
           เราไปดูกันเลยดีกว่าว่าเมืองนี้จะมีอะไรให้น่าค้นหาอีกบ้าง....
ภาพที่ใช้ในการโปสเตอร์ที่ใช้ในการโปรโมทนครนิงาตะครั้งนี้

แสดงที่ตั้งของเมืองทิศเหนือติดกับอวกาศ ทิศตะวันออกติดกับเขตปกครองพิเศษโอไดบะ ทิศใต้ติดกับนครกัวลาลัมเปอร์ และทิศตะวันตกติดกับเมืองคะนะซะวา

ภาพมุมสูงที่ถ่ายจากเครื่องบินที่ระดับความสูง 15,000 เมตร


ปากแม่น้ำอะซาโนกะวะโดยมีเขื่อนคอยปรับสมดุลย์ของน้ำ
นครยามราตรีมีความสวยงามไม่แพ้เมืองอื่น
ย่านการค้า Furumachi เป็นย่านที่ตั้งอยู่หน้าสถานีกลางนิงาตะและเป็นอีกจุดหนึ่งที่มีการจราจรหนาแน่นในเวลาเร่งด่วน
บรรยากาศแหล่งที่อยู่อาศัยหนาแน่นด้านทิศเหนือของเมือง

อาคาร Kita Tower (ล่างซ้าย) เป็นอาคารสำนักงานระฟ้าแห่งแรกของเมืองสร้างขึ้นทันทีหลังจากที่สนามบินคะนะซาวะปิดตัวลงและมีการปลดล็อกความสูง โดยมีความสูงกว่า 213 เมตร

ย่านเศรษฐกิจยามค่ำคืน

ย่าน Furumachi ยามราตรี ร้านลวงต่างๆ พากันเปิดแสงออกมาเพื่อเรียกลูกค้าประกอบกับการจราจรที่กำลังหนาแน่นในช่วงหลังเลิกงาน
อาคารชุดที่อยู่อาศัยมีความคลาสสิกสร้างขึ้นในยุคยกระดับฐานะของเมืองนิงาตะช่วงแรกๆ
มหาวิทยาลัยนิงาตะมีบรรยากาศที่น่าเรียนเพราะตั้งอยู่ติดกับชายทะเลพร้อมกับค่าเทอมที่ถูกมากแต่คุณภาพนักศึกษาดีเยี่ยม
เขื่อนนิงาตะคอยเปิด-ปิดการไหลของน้ำจืดกับน้ำเค็ม ตั้งอยู่ปากแม่น้ำอะซาโนกะวะโดยก่อนก่อสร้างมีการประทวงจากกลุ่มผู้ที่ขาดความรู้ แต่เขื่อนก็สามารถสร้างมาได้เพราะมีความจำเป็นจริงๆ

ย่านชานเมืองซึ่งกลายจะเป็นย่านกลางเมืองซะแล้ว

อนุสาวรีย์เครื่องบินสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงสนามบินคะนะซาวะที่ถูกทุบทิ้งไปในปี 172 เนื่องจากสนามบินมีพื้นที่จำกัดทำให้ไม่สามารถขยายได้และเขตเมืองได้ขยายใหญ่โตขึ้นจึงทำให้เกิดความไม่สะดวกในการลง-จอดของเครื่องบิน 


ย่านชานเมืองยามค่ำคืน 


ภาพก่อน - หลังการพัฒนาพื้นที่สนามบินคะนะซาวะ (เก่า) ให้กลายเป็นย่านธุรกิจด้วยเงินลงทุนมหาศาลกว่า 67,500 ล้านบาทโดยส่งผลให้เศรษฐกิจกระเตื้องขึ้นกว่า 14.86%
อาคารมหานครเป็นอาคารที่สวยที่สุดในเมืองนิงาตะ เป็นทั้งที่อยู่อาศัยและคาเฟ่แมว
อาคารสำนักงานซัมซุงที่ขยายสาขาไปทั่วราชอาราจักร
ภาพยามค่ำคืนของเขตที่ได้รับการพัฒนา

สถานีรถไฟนิงาตะเก่าอดีตเคยเป็นสถานีหลักแต่ต่อมาเกิดความคับแคบจึงได้ย้ายสถานีกลางไปที่เขต Furumachi

สถานีกลางนิงาตะมีผู้โดยสารกว่า 60,000 คน/วันเป็นชุมทางขนาดกลางมีรถไฟสายหลัก 2 สายสายรอง 2 สายเชื่อมโยงกันที่สถานีนี้

อาคารสำนักงานสถานีนิงาตะและห้างสรรพสินค้าที่บริหารโดยบริษัทรถไฟได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ

การจราจรช่วงหลังเลิกงานบริเวณย่าน Furumachi มีความหนาแน่นสูงมากเฉลี่ยเคลื่อนที่ได้ 5 กม/ชม
ระบบขนส่งมวลชนประเภทรางของเมืองนิงาตะมี 5 เส้นทางได้แก่
1.VR Odaiba Line (สายสีส้ม) เป็นระบบหลักเชื่อมต่อระหว่าง 3 เมืองใหญ่(กัวลาลัมเปอร์-นิงาตะ-เขตปกครองพิเศษโอไดบะ)
ผ่าน
เขตธุรกิจ อุตสาหกรรม และเขตชุมชนหนาแน่นมีผู้โดยสารเฉลี่ย 95,750 คน/วัน
2.VR Niigata Line {Local} เป็นรถไฟท้องถิ่นที่จอดรับผ
ู้โดยสารทุกสถานีซึ่งในนิงะตามี 3 สถานีโดยจมีลักษณะเป็นตัวป้อนผู้โดยสารเข้าสู่ระบบ Express มีผู้โดยสารประมาณ 45,000 คน/วัน
3.
VR Niigata Line {Express}  เป็นระบบหลักเชื่อมต่อระหว่าง 3 สถานีใหญ่ (Kanazawa-Niigata-Kuala Lumpur) ปัจจุบันมีผู้โดยสารกว่า 110,000 คน/วัน
4.Furumachi Line (สายสีน้ำเงินเข้ม) มี 7 สถานีวิ่งผ่านกลางพื้นที่ธุรกิจมีจุดเชื่อมต่อใหญ่ที่สถานีกลางนิงาตะ และไปสิ้นสุดเส้นทางที่เขตอุตสาหกรรมร่วมนิงาตะ - โอไดบะ ผู้โดยสารเฉลี่ยต่อวัน 57,300 คน/วัน
5.Kita Line (สายสีน้ำเงินอ่อน) มี 8 สถานีวิ่งเชื่อมต่อกันระหว่างเขตธุรกิจและเขตชานเมือง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ไม่อยากใช้รถยนต์มาทำงาน เพราะจะต้องมาเผชิญกับรถติดในเขตเมือง ซึ่งสามารถร่นระยะเวลาเฉลี่ย 67% ของเวลาการเดินทาง จึงทำให้มีผู้โดยสารเป็นจำนวนมากเฉลี่ย 78,000 คน/วัน


เขตอุตสาหกรรมนิงาตะที่ร่วมมือกับเขตการปกครองพิเศษโอไดบะซึ่งในอยู่เมืองนิงาตะประมาณ 1/6 ของเขตอุตสาหกรรมทั้งหมด อีก 5/6 นั้นอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษโอไดบะ

โปรดติดตามตอนต่อไป...



             
              

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น